จอภาพ(Monitor)









ถือได้ว่าจอภาพเป็นสิ่งที่เราต้องมองเห็นอยู่ทุกครั้งเวลาเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ ดังนั้นจอภาพเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะว่าอย่างน้อยจอภาพก็มีผลโดยตรงต่อสายตาของเราอย่างแน่นอนเวลาที่เราจ้องมองนานๆจอภาาพมีอยู่ 2 แบบหลักๆคือแบบ crt และแบบ lcd

จอภาพแบบ crt ก็คือ จอภาพคอมพิวเตอร์ทั่วๆไปหรือจอภาพที่ใช้หลักการของหลอดภาพคล้ายๆกับภาพของโทรทัศน์เป็นแบบที่นิยมใช้กับเครรื่องคอมพิวเตอร์ทั่วๆไป

ตามสำนักงานต่างๆเนื่องจากไม่แพงเมื่อเทียบกับจอแบบอื่น การทำงานของจอชนิดนี้คือการยิงอิเล็กตรอนไปยังสารเรืองแสงที่เคลือบอยู่บนหน้าจอทำให้เกิดแสงสีต่างๆ

จอภาพแบบ lcd คือ

ส่วนจอภาพแบบ lcd นั้นมีราคาค่อนข้างสูงมีจุดดีกว่าหลายจุดเช่น จอภาพแบบนี้มีขนาดเล็กแบน และมีน้ำหนักเบา

เนื่องจากใช้หลักการของการฉายแสงผ่านผลึกทำให้เกิดเป็นสีแบบต่างๆจึงไม่จำเป็นต้องใช้แรงดันไฟฟ้ามากซึ่งแตก

ต่างกับจอแบบ crt ที่ต้องใช้แรงดันสูงในการยิงอิเล็กตรอน นอกจากนี้ยังไม่เกิดการกระพริบของจอภาพ

อาการภาพมีลักษณะสีเพี้ยน

อาการนี้หมายความว่าที่จอคอมพิวเตอร์สีที่ปรากฏในบางส่วน เช่น บริเวณขอบๆจอภาพมีลักษณะของสีไม่เหมือนจริง

หรือผิดเพี้ยนไปจากบริเวณอื่น โดย่วนมากจะมีอาการเพี้ยนออกมาในโทนสีม่วงจะกินบริเวณกว้างหรือไม่กว้างเท่าไหร่นักก็ทำให้รู้สึกรำคาญได้ไม่น้อย

สาเหตุ

อาการแบบนี้สาเหตุโดยส่วนใหญ่เกิดจากการนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บางอย่างที่มีสภาพเป็นแม่เหล็กไปวางใกล้ๆกับจอภาพ

เช่น ที่เห็นใด้ชัดก็คือลำโพง (ตรงส่วนท้ายของดอกลำโพงจะมีแม่เหล็กติดอยู่) เนื่องจากคอมพิวเตอร์จะทำงานด้วยหลักการของการยิงอิเล็กตรอนไปใช้บนจอภาพดังได้ที่กล่าวมาแล้ว ทิศทางในการยิงอิเล็กตรอน จะถูกกำหนดโดยการใช้อำนาจแม่เหล็ก ดังนั้นหากว่าเรานำลำโพงไปวางไว้ใกล้ๆอำนาจแม่เหล็กที่มาจากลำโพงก็จะให้การยิงอิเล็กตรอนผิดเพี้ยนไปก่อให้เกิดความผิดพลาดในการแสดงผลต่างๆ

วิธีแก้ไข

เมื่อเกิดปัญหาแบบนี้ขึ้นนั้นควรรีบแก้ไข เพราะถ้าหากปล่อยไว้นานก็จะทำให้เกิดรอยแผลเป็นบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้ก็คือ รอยสีเพี้ยนที่ว่านี้อาจจะไม่หายไปเลยก็เป็นได้มีวิธีแก้ไขลองพิจารณาดูตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

1.เมื่อเราได้สาเหตุว่าเกิดขึ้นเพราะอะไรก็รีบแก้ไขเลยคือ สังเกตุดูรอบๆจอภาพว่ามีอุปกรณ์ที่อาจจะมีอำนาจแม่เหล็กวางอยู่ใกล้ๆหากว่ามีอุปกรณ์นั้นๆมีอำนาจแม่เหล็กที่รุนแรงมากอุปกรณ์เหล่านั้นก็อย่างเช่น ลำโพง โดยเฉพาะส่วนท้ายที่เป็นแม่เหล็กยิ่งเป็นลำโพงที่มีแต่ดอกเปล่าๆคือไม่มีกล่องละก็ยิ่งอันตราย

2.ถ้าหากนำอุปกรณที่เป็นแม่เหล็กออกแล้วยังไม่หายดี ก็ต้องลองใช้วิธีหนามยอกเอาหนามบ่งนั่นคือ เอาลำโพงหรือแม่เหล็กที่ไหนก็ได้ลองล้างหน้าจอเอาเองโดยการเคลื่อนลำโพงนั้นไปมาในลักษณะเหมือนกับเราปัดฝุ่น

ลองทำไกล้ แล้วสังเกตุความเปลียนแปลงดูจากนั้นก็ค่อยๆเคลื่อนไปมา เข้าออกบริเวณที่สีเพี้ยน

3.ส่วนวิธีที่จะแนะนำเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดเหมาะสำหรับเครื่องที่ซื้อมาใหม่ยังไม่ค่อยได้ใช้งานเพราะวงจรภายในยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์เพียงแค่ลองปิดจอภาพ

แล้วทิ้งไว้ 5-10 นาที แล้วก็ลองเปิดดูวงจรภายในจะทำการล้างหน้าจอให้เอง

4.วิธีสุดท้ายคือการใช้ป่มล้างหน้าจอ Degauss เป็นวิธีที่ใช้ได้กับจอที่มีฟังก์ชั้่นนี้เท่านั้น สวนใหญ่จะพบกับจอภาพราคาแพงหรือยี่ห้อดังๆเพียงแต่คุณเลือกเมนูที่มีสัญลักษณ์เป็นแม่เหล็กหรือมีตัวหนังสือว่า Degauss เท่านั้น หน้าจอจะสั่นไหวไปพักหนึ่งแล้วกลับมาสู่ปกติ หน้าจอสีที่เพี้ยนจะหายไปหรือดีขึ้นบ้าง

อาการภาพเบลอไม่คมชัด

อาการนี้ก็คือลักษณะเหมือนกับเรามองภาพแล้วจะเห็นไม่ชัด เหมือนถ่ายรูปไม่ได้โฟกัสหรือภาพไม่คมชัดเบลอๆอาการแบบนี้สร้างปัญหาให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ได้มากเหมือนกันเพราะหากเราทนใช้จอภาพแบบ

นี้ไปนานๆก็จะทำให้สายตาเราเสีย

สาเหตุ

สาเหตุก็มาจากอายุการใช้งานเป็นส่วนใหญคือ ใช้งานมานานหรือใช้งานหนักเปิดมั้งวันทั้งคืน ทำให้อุปกรณ์ที่ใช้ในการควบคุมตรงส่วนนี้เกิดผิดพลาดคลาดเคลื่อนไปบ้าง หรือจอภาาพที่ซื้อมาไม่มีคุณภาพเท่าไหร่นักก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่ง ก่อนถอดจอควรถอดปลั๊กไฟออกก่อนเพราะไฟจากจอภาพมีความแรงเท่ากับระดับไฟฟ้าแรงสูง ซึ่งทำให้ถูกดูดได้ง่าย

วิธแก้ไขอาการแบบนี้ทำำได้โดยขั้นตอนต่อไปนี้

1. ปิดเครื่ิองคอมพิวเตอร์พร้อมทั้งปิดจอภาพ ถอดปลั๊กออกให้เรียบร้อย

2. ถอดฝาครอบจอภาพออก โดยการใช้ไขควงหมุนนอตทางด้านท้ายออก ถอดขาตั้งจอภาพออกด้วย และจับจอภาพวางในลักษณะที่เราสามารถดูจอภาพได้

3. เมื่อเปิดผาครอบจอภาพเสร็จแล้วให้สังเกตุบริเวณด้านท้ายของหลอดภาพจะมีช่องเล็กๆเขียนว่า (focus)นั่นก็คือ

ช่องสำหรับปรับแต่งความคมชัดของจอภาพนั่นเอง

4. วิธีการปรับแต่งก็ใช้ไขควงขนาดพอดี ซึ่งจะต้องใช้อันเล็กและยาวหน่อยหมุนปรับแต่งความคมชัด โดยต้องเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์แล้วจอภาพก่อนแล้วค่อยๆปรับแต่ง (focus)โดยสังเกตุได้จากผลที่เกิดขึ้นบนหน้าจอ

หากว่าทิศทางที่เราหมุนมันชัดขึ้นก็หมุนต่อจนได้จุดที่สุดยอดก็หยุดหมุน แต่ต้องระมัดระวังนิดนึงเพราะจอคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่มีแรงดันไฟฟ้าสูงอาจเป็นอันตรายได้จึงคารระมัดระวัง

5. หลังจากนั้นก็ปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ แล้วก็ถอดปลั๊กนำฝาครอบมาใส่เหมือนเดิมแล้วเปิดเครื่องใช้งานได้ตามปกติ

อาการจอภาพมีลักษณะการแสดงสีขาดๆหายๆ

อาการนี้คือ จอภาพบางทีเหมือนสีแดงไม่แสดงผลหรือสีอื่นๆ เป็นต้น ก็จะส่งผลให้ภาพที่เรามองเห็นอยู่ไม่สมจริง

สาเหตุ

อาการนี้มีหลายสาเหตุแต่สาเหตุที่เรนาพอจะซ่อมได้ไม่ยากเย็นนัก และไม่ต้องใช้ความรู้ทางด้านอิเล็กทรอนิกส์อะไรเลยก็คือ เกิดจากความเสื่อมสภาพหรือเกิดจากความสกปรกบริเวณ

ขั้วหลอดภาพ ที่สะสมมาทีละเล็กละน้อยจนทำให้ขั้วหลอกภาพมีคราบเกาะติดเกิดปัญหาขึ้นได้

วิธีแก้ปัญหามีขั้นตอนดังนี้

1. ปิดเครื่องคอมพิวเตอร์และปิดจอภาพให้เรียบร้อยจากนั้นก็ถอดฝาครอบจอภาพออกให้เรียบร้อย คราวนี้ให้เอาส่วน

ของหน้าจอคว่ำลงที่พื้น(หาอะไรนุ่มๆรองหน่อยนะหน้าจอจะได้ไม่มีรอย)

2.ถอดฝาครอบออกแล้ว จะสังเกตุเห็นขั้วหลอดภาพซึ่งจะมีแผงวงจรอยู่ทางด้านท้ายด้วยให้เนาเอาแผงวงจรออกมา

โดยค่อยๆดึงแผงวงจรออกมาทางด้านบนโดยก่อนทำการดึงให้สังเกตุดูให้ดีว่ามีสายอะไรรัดอยู่หรือไม่ เพราะบางทีเขาจะนำเอาสายรัดมารัดไว้ให้แน่น ถ้ามีก็ให้ตัดออกก่อน(ขั้นตอนนี้สำคัญมากเพราะอุปกรณ์ตรงนี้ค่อน

ข้างที่จะบอบบางควรระมัดระวังให้มาก

3. เมื่อได้ถอดออกแล้วก็จะเจอขั้วหลอดจริงๆของหลอดภาพ และตรงแผ่นวงจรที่ถอดออกก็จะเป็นช่องสำหรับให้ขั้ว

หลอดเสียบลงไปการทำความสะอาดแผงวงจรนี้โดยการใช้สเปรย์จำพวกน้ำยาศูนย์องศาฉีดเข้าไปในช่องนั้น

หรืออาจจะใช้เครื่องเป่าลมทำความสะอาดด้วยก็ได้

4.จากนั้นก็ให้ทำความสะอาดที่ขั้วหลอดของหลอดภาพซึ่งจะมีลักษณะเป็นแท่งเหมือนในภาพ การทำความสะอาดทำได้โดยใช้สเปรย์ทำความสะอาดเหมือนเดิม ถ้าหากสังเกตุว่าขั้วหลอดมีความสกปรกมาก

ก็อาจจะใช้คัตเตอร์ขูดคราบสกปรกนั้นออกหรือใช้กระดาษทรายละเอียดขัดเบาๆ ที่ขั้วหลอดแต่ละอัน จนกระทั่งขั้วหลอด

ดูสะอาดเป็นมันวาว